ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที วิจารณ์การทำงานของ “สจ๊วจ” โมโตจีพี และระบบตรวจจับ “แทร็กลิมิต” ว่าแจ้งข้อมูลการยกเลิก “เวลาต่อรอบ” ช้าเกินไป จนเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากยาง
มอร์บิเดลลี สามารถกดเวลาเป็นอันดับ 1 จาก Q1 เข้าสู่ Q2 ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะคว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 2 ในศึก สแปนิช กรังด์ปรีซ์ มาครอง
อย่างไรก็ดี การถูก “ยกเลิก” เวลาต่อรอบในช่วงท้ายรอบ Q1 ที่ช้าเกินไป ส่งผลให้เขาจำเป็นต้องใส่ยางชุดใหม่ลงไปกดเวลา และทำให้การ “เตรียมยาง” สำหรับรอบ Q2 เป็นไปอย่างเร่งรีบ
“ผมคิดว่ามันยังคงมีช่องว่างให้ปรับปรุง (ระบบตรวจจับแทร็กลิมิต)” มอร์บิเดลลี กล่าวหลังจบการควอลิฟาย
“มันถูกต้องแล้วที่ผมถูกยกเลิกเวลาต่อรอบ รวมถึงเวลาต่อรอบในช่วงเช้าด้วย (FP3)”
“แต่บางทีผมก็คิดว่ามันอาจจะไม่ค่อยถูกที่ถูกเวลาเท่าไหร่ เพราะผมได้รับแจ้งช้ามากและเราก็ไม่ได้เตรียมยางไว้”
“ดังนั้น เราจำเป็นต้องไปเอายางที่เตรียมไว้มาใช้ใน Q1 ก่อนจะนำยางที่แร็ปพลาสติคไว้มาวอร์มยาง (ใส่ชุดคลุมสำหรับอุ่นยาง) และหวังว่ามันจะอุ่นเพียงพอที่จะใช้ลงบิดในรอบ Q2 ถ้าผมผ่าน Q1 ไปได้”
“แน่นอน… ผมต้องเจอกับปัญหาด้านความปลอดภัยในช่วงบ่าย”
“โชคดีที่อุณหภูมิมันร้อนเพียงพอที่จะทำให้ผมลงบิดด้วยยาง มีเดียม และ ซอฟท์ ดังนั้น จึงทำให้เรามีทางเลือกและมียางมากขึ้นที่จะใช้งาน”
“ถ้าอุณหภูมิเย็นกว่านี้และทำให้เราลงบิดได้เพียงกับยางเพียงชนิดเดียว นั่นจะทำให้เราเจอปัญหาใหญ่ด้านความปลอดภัยอย่างแน่นอน”
“โชคดีที่เหตุการณ์แบบนี้มันไม่เกิดขึ้น และผมคิดว่าเราจะต้องตั้งคำถามกับ สจ๊วจ เพื่อให้พวกเขาแจ้งข้อมูลเราอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากผ่านไประยะหนึ่งแล้ว เราไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน และมันจะสามารถเกิดอันตรายได้จากการที่เตรียมยางไม่ทัน”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇