โมโตจีพี เผยคลิป “ออนบอร์ด” การเร่งเครื่องยนต์ผิดปกติของ มาเวริค บีญาเลส ที่อาจจำไปสู่การตัดสินใจของ ยามาฮ่า ในการถอดชื่อนักบิดหมายเลข 12 จากการแข่งขัน ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ขณะสื่อหลายสำนักฟันธง “นักบิด” ตั้งใจบิดคันเร่งเกินลิมิตมุ่งทำลายเครื่องยนต์ของ M1
นับเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ของ โมโตจีพี อย่างแท้จริง เมื่อ “มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ตัดสินใจถอดชื่อ “ท็อปกัน” มาเวริค บีญาเลส ยอดนักบิดสแปนิชจาก ออกจากการแข่งขัน โมโตจีพี สนาม 11 รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากเกิดปัญหาขัดข้องของรถแข่ง M1 ในรายการ สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ ที่ เรดบูลล์ ริง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก “ระบุเป็นเพราะนักบิดจงใจ”
โดย “ข้อสรุปของ ยามาฮ่า คือการกระทำของนักบิดอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยยะสำคัญต่อเครื่องยนต์ของรถแข่ง YZR-M1 ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวนักบิดเอง และอาจเป็นอันตรายต่อนักบิดคนอื่นๆ ในการแข่งขัน โมโตจีพี โดยทีมจะไม่ส่งนักบิดคนใดลงแทนที่ บีญาเลส”
จากการตีความในลักษณะนี้ หมายความว่า “บีญาเลส ตั้งใจที่จะทำลายเครื่องยนต์ในรถแข่งของเขาระหว่างการแข่งขัน สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ ด้วยการเร่งเครื่องยนต์มากเกินไป (ใช้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไปโดยไม่เปลี่ยนเกียร์)”
ยามาฮ่า ยังไม่มีการออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ หลังจากการประกาศตามแถลงการณ์ดังกล่าว ขณะ บีญาเลส เองก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่เลือกที่จะยกเลิกสัญญากัน ก็ทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานอย่างต่อเนื่อง
หลังจากออกตัวยอดเยี่ยมในเรซแรกก่อนมีธงแดงจากเหตุการณ์ของ แดนี เปโดรซ่า และ ลอเรนโซ ซาวาดอรี จนเกิดเพลิงไหม้รถแข่ง และทำให้มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่พื้นแทร็กขำนวนมาก ทำให้ต้องเสียเวลาทำความสะอาดแทร็กกว่า 30 นาที ก่อนจะกลับมารีสตาร์ทอีกครั้ง ทว่ารถแข่งของ บีญาเลส สะดุดจนเครื่องดับในจังหวะออกตัวก่อนเข้าสู่รอบ วอร์มอัพ จนถูกบังคับให้เริ่มเกมจาก “ปากทางออกพิตเลน”
หลังจากไล่ทันนักบิดกลุ่มท้ายและแซงนักบิดได้เมื่อผ่านไปไม่กี่รอบ บีญาเลส กลับโดนลงโทษ “ลอง แล็ป เพนัลตี้” จากการที่ขี่หลุด “แทร็กลิมิต” เกินกำหนด โดยเขาเข้ารับโทษในรอบที่ 15 และไม่สามารถกอบกู้อันดับได้ต่อเลย
ระหว่างเข้าสู่ช่วงท้ายการแข่งขัน คาล ครัทช์โลว นักบิดทดสอบของ ยามาฮ่า ที่ลงบิดให้กับ ปิโตรนาส เอสอาร์ที ขับแซงผ่าน บีญาเลส ไปขณะที่เหลือการแข่งขัน 4 รอบสนาม โดยนักบิดหมายเลข 12 ละจากการกดเวลาอย่างเต็มที่ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 25 วินาที ไปดื้อๆ
ซึ่งในช่วง 3 รอบสุดท้ายก่อนรีไทร์ บีญาเลส ทำเวลาต่อรอบไว้ที่ 1:30.3, 1:31.8 และ 1:30.6 ซึ่งช้ากว่าเวลาปกติร่วมรอบละ 5 วินาที แถมไม่ยอมนำรถผ่านเส้นชัยเพื่อจบการแข่งขันด้วยซ้ำ และนำรถกลับเข้าพิตด้วยอาการหัวเสีย
วีดีโอแสดงการบิดของ มาเวริค บีญาเลส ช่วง 3 รอบสุดท้ายก่อนนำรถเข้าพิต 👉
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าระหว่างที่บิดในสนามหลังรีสตาร์ท หน้าจอ “แดชบอร์ด” ของ บีญาเลส เกิดอาการรวนตลอดเวลาด้วยการขึ้นค่ำสั่ง Pit Lane ซึ่งสร้างความสับสนให้ตัวเขาเองอย่างมาก
โดยภายหลังเข้าพิตนักบิดสแปนิชไม่ได้แชร์ข้อมูลใดๆ กับทีม ซึ่งเชื่อว่านี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทีมกลับมาตรวจสอบข้อมูลการขับขี่ของเขาโดยละเอียด ก่อนจะนำมาซึ่งการประกาศถอดชื่อจากการแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนส่งรายชื่อนักแข่งประจำรายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์
ขณะที่สื่อหลายสำนักพร้อมกันชี้ว่า บีญาเลส ทำการเดินรอบเครื่องยนต์ไม่ปกติจริงๆ ในช่วงท้ายเรซ โดยข้อมูลชี้ว่า บีญาเลส บิดแช่คันเร่งที่ปลายทางตรงค้างไว้ที่เกียร์ 5 โดยไม่ยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์ 6 เมื่อรอบเครื่องยนต์เกินลิมิต
ทั้งนี้ การตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคต (ระหว่าง ยามาฮ่า และ บีญาเลส) จะถูกดำเนินการขั้นต่อไปหลังการวิเคราะห์สถานการณ์ และการหารือเพิ่มเติมของทั้งสองฝ่าย
