อัลเบอร์โต พุช ยอดทีมบอสของ เรปโซล ฮอนด้า ขนานนามการคว้าชัยชนะแบบ “วัน-ทู” ของทีมในศึก เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นการทำได้ในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายในปี 2017 ที่ อราก้อน ชี้เป็น “รางวัลสุดพิเศษ” ให้ทุกคน
มาร์ค มาร์เกซ และ โปล เอสปาร์กาโร ช่วยกันพา เรปโซล ฮอนด้า คว้าชัยชนะแบบ วัน-ทู ได้ในศึก โมโตจีพี สนามล่าสุด รายการ เอมิเลีย-โรมันญา กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการหวนกลับไปดวลกันครั้งที่ 2 ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี
หลังจากที่นักบิดจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม ทั้ง แจ็ค มิลเลอร์ และ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า พลาดล้มที่โค้ง 15 ส่งผลให้ มาร์เกซ ขึ้นนำหลังออกตัวได้ดีและไล่กดดันกลุ่มนำได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดจ็อบคว้าชัยชนะครั้งที่ 3 ให้กับตนเองในปีนี้ได้สำเร็จ
ขณะที่ โปล เอสปาร์กาโร สร้างผลงานที่ดีที่สุดของตนเอง นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมงานกับ เรปโซล ฮอนด้า ในปีนี้ด้วยการคว้าอันดับ 2
ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่นักบิดฮอนด้า คว้าชัยชนะแบบ 1-2 ได้ต้องย้อนกลับไปในศึก อราก้อน กรังด์ปรีซ์ 2017 จากชัยชนะของ มาร์เกซ และอันดับ 2 ของทีมเมทร่างเล็ก แดนี เปโดรซ่า
นอกจากนี้ ชัยชนะ 2 สนามติดต่อกันของ มาร์เกซ ถือเป็นการเข้าวินแบบ 2 สนามติดต่อกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019
ในการให้สัมภาษณ์หลังจบสุดสัปดาห์ที่ มิซาโน, อัลเบอร์โต พุช ทีมบอสของ เรปโซล ฮอนด้า ระบุว่า “เราตั้งใจที่จะใช้สุดสัปดาห์นี้เปรียบเทียบความคืบหน้า กับการแข่งขันครั้งแรกที่ มิซาโน เพื่อดูว่าการทำงานของเราออกมาแบบไหน”
“และแน่นอนว่าเราเดินทางออกมาจากที่นั่นด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม”
“ผลงานแบบ 1-2 มันไม่เคยง่ายเลย แม้กระทั่งตอนที่คุณอยู่ในเงื่อนไขที่ดีที่สุดก็ตาม และตอนนี้ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเรา” พุช กล่าว
“แต่เราก็สามารถทำมันได้ ซึ่งมันเป็นผลงานที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ”
“ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย… ไม่ว่าจะเป็น ความพยายามอย่างหนักโดยนักบิดของเรา, การทำงานหนักอย่างต่อเนื่องของ ฮอนด้า รวมถึงแรงสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมจาก เรปโซล และรายอื่นๆ”
“และที่จำเป็นที่สุด คือการทำงานหนักจากทีมงานของเราทุกคน”
“เราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเราไม่เคยยอมแพ้ ผลลัพธ์นี้นำมาซึ่งความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม มันคือรางวัลสุดพิเศษสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์นี้”
ขณะเดียวกัน นี่คือการคว้าชัยชนะในสนาม “วนขวา” ครั้งแรกของ มาร์เกซ หลังคัมแบ็กจากอาการบาดเจ็บ หลังทำได้ครั้งล่าสุดคือที่ โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่นในปี 2019 โดยนับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวสำหรับ มาร์เกซ ก่อนจะก้าวสู่ฤดูกาล 2022
นอกจากนี้ยังเป็นโพเดี้ยมครั้งแรกของ เอสปาร์กาโร สำหรับ ฮอนด้า ด้วยเช่นกัน หลังจากที่เขาต้องเจอสถานการณ์ยากลำบากอย่างหนัก นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2021 และดูเหมือนว่าเขาจะแทบทำไม่ได้เลย