แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์จาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง แสดงอาการข้องใจกับการตัดสินบทลงโทษของ เอฟไอเอ จากจังหวะขับหลุดแทร็กที่โค้ง 1 ของ เจดดาห์ ชี้ลักษณะคล้ายกันที่ บราซิล ทำไมถึงไม่โดนปรับ
ในการแข่งขัน บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เวอร์สแท็พเพ่น ขับบานออกนอกแทร็กที่โค้ง 4 เพื่อป้องกันไม่ให้ ลูอิส แฮมิลตัน แซงผ่านไปได้ จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ซึ่งจังหวะดังกล่าว ไมเคิล มาซี, เรซ ไดเร็กเตอร์ ตัดสินใจที่จะไม่ส่งเรื่องต่อไปที่ สจ๊วต เอฟไอเอ ให้ตรวจสอบ
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับ เมอร์เซเดส อย่างมาก เพราะนักขับหลายคนต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ว่าขอบเขตของกฎการแข่งขันในเรื่องนี้ แท้จริงแล้วมีข้อกำหนดไว้อย่างไร
“หาก เวอร์สแท็พเพ่น ไม่โดนลงโทษที่ บราซิล ผมคงต้องทบทวนวิธีการขับของผมใหม่ (ให้ก้าวร้าวกว่าเดิม)” ชาร์ล เลอแคลร์ นักขับเฟอร์รารี่กล่าว
แม้ เมอร์เซเดส จะยื่นหลักฐานใหม่เพื่ออุทธรณ์คำตัดสินใจสนามดังกล่าว ทว่า เอฟไอเอ ก็ได้ปัดตกและไม่มีการสอบสวนเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ การประชุมนักแข่งก่อนการแข่งขันที่ กาตาร์ ก็ยังคงล้มเหลวไม่เป็นท่ากับความชัดเจนในเรื่องนี้
ในการแข่งขัน ซาอุดิ อาระเบียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ เวอร์สแท็พเพ่น และ แฮมิลตัน บดกันอย่างหนักตลอดทั้งเรซ และมีถึง 2 จังหวะที่นักขับดัตช์ขับบานใส่คู่แข่ง
ครั้งแรกเกิดขึ้นในการรีสตาร์ทหลังธงแดงครั้งที่ 1 ซึ่งในเหตุการณ์นั้น มาซี, เรซไดเร็กเตอร์ ยื่นข้อเสนอให้ เรดบูลล์ ถอยกริดสตาร์ทของ เวอร์แท็พเพ่น ลงไปอยู่หลัง แฮมิลตัน ในการรีสตาร์ทอีกครั้งหลังมีธงแดงจากอุบัติเหตุของกลุ่มท้าย
ทว่าการบานออกนอกแทร็กครั้งที่ 2 ในโค้งแรกเพื่อป้องกัน แฮมิลตัน ก็ทำให้ เวอร์สแท็พเพ่น ถูกลงโทษปรับ 5 วินาที จาก “การสร้างความได้เปรียบเมื่อขับออกนอกขอบเขตแทร็ก”
หลังจากความพยายามครั้งแรกที่จะปล่อยให้ แฮมิลตัน แซงผ่าน (แต่กลับเป็นการเบรกหนักกว่าปกติ ทำให้ถูกลงโทษบวกเวลา 10 วินาที หลังจบเรซ) โดยจังหวะดังกล่าวทำให้เกิดการปะทะกัน (ปีกหน้าของ แฮมิลตัน เสียหาย)
ทว่าในการคืนตำแหน่งครั้งที่ 2 ให้ แฮมิลตัน, เวอร์สแท็พเพ่น กลับแซงคืนแบบทันควันในโซน DRS ซึ่งทำให้คณะสจ๊วตไม่พอใจอย่างมาก
เวอร์สแท็พเพ่น เปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน เจดดาห์ กับการป้องกันอันดับลักษณะคล้ายกันกับที่ บราซิล ซึ่งเขารอดพ้นการโดนลงโทษ เพราะนักขับทั้งสองคนหลุดออกจากแทร็ก
“ผมคิดว่ามันแปลกที่ใน บราซิล ผมไม่โดนลงโทษอะไร แต่ตอนนี้ (ที่ เจดดาห์) ผมกลับถูกปรับเวลาในเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน”
“แน่นอนว่าเขาขับได้เหมือนกับที่ บราซิล และก็จริงที่ผมเบรกลึก ซึ่งผมคิดว่าหลุดไลน์ไปนิดหน่อย ในจุดนั้น” เวอร์สแท็พเพ่น กล่าว
“ผมเป็นคนคุมจังหวะ ดังนั้นเลยบานออกไป แต่เขาก็ไม่ได้ไลน์ในการแซงนะ นั่นเท่ากับว่าเราต่างก็พลาดในโค้งนั้น และผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่ผมโดนลงโทษ”
“แต่ก็นั่นแหละครับ… นั่นคือสิ่งที่เป็น”
“ผมมองว่ามันเป็นประเด็นที่น่าสนใจนะ ผมเป็นคนเดียวที่โดนลงโทษทั้งที่เราทั้งคู่หลุดออกนอกแทร็กลิมิต ใน บราซิล ไม่เห็นเป็นอะไรแต่ที่นี่ เหตุการณ์นี้กลับโดนลงโทษ”
เวอร์สแท็พเพ่น ถูกลงโทษครั้งที่ 2 ด้วยการบวกเพิ่ม 10 วินาที สำหรับเหตุการณ์ที่ปะทะกับ แฮมิลตัน ขาออกโค้ง 27 หลัง เอฟไอเอ ตรวจพบว่ามีการเบรกหนักกว่าปกติ
โดยนักขับดัตช์กล่าวว่าไม่ต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่ ซาอุดิ อาระเบีย อีกแล้ว แต่ก็ย้ำว่า “ความอัปยศ” ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการลงโทษนั้น มาบดบังการแข่งขันมากเกินไป
และนั่นก็เป็นเหตุผลให้ผู้ท้าชิงแชมป์โลกทั้งสองคน กลับมามีคะแนนเท่ากัน จนต้องไปตัดสินกันในสนามสุดท้ายที่ อาบู ดาบี
“คุณเองก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราทั้งคู่ ต่างก็ไม่ได้อยู่ในไลน์ที่ดีในโค้งนั้น แต่ก็ช่างมัน, ผมไม่อยากหมกมุ่นกับมัน เราต้องก้าวไปข้างหน้า” เวอร์สแท็พเน กล่าว
“ตอนนี้เรามีแต้มเท่ากันแล้ว และผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้นจริงๆ สำหรับการลุ้นแชมป์โลกรถสูตรหนึ่ง”
“แต่อย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ในการทำเวลาต่อรอบของตัวเอง ผมคิดว่าเรากำลังพูดถึงเส้นสีขาว (ขอบเขตแทร็ก) และบทลงโทษมากกว่าจะเป็นการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน และนั่นคือสิ่งที่ผมคิด”
“มันดูจะน่าละอายอยู่นิดหน่อย (พูดถึง เอฟไอเอ)”
บทความที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇