นี่คือสิ่งที่ ฮอนด้า เปลี่ยนแปลงในปี 2022 กับรถแข่ง RC213V
• New chassis (เทสต์ 3 แบบ)
• New engine
• New aero (3-4 แบบ)
• New fairings all round
• New seat and tail unit
• New exhausts
ปัญหาต่อเนื่องของ ฮอนด้า คือการ “ขาดทรัคชั่น” ในล้อหลัง ก่อนที่ในปีนี้ RC213V จะพัฒนาตาม “คอนเซ็ปต์ใหม่” ซึ่งมาด้วย “บาลานซ์ใหม่” ของตัวรถ ที่มีจุดศูนย์ถ่วงเอนไปด้านหลังมากขึ้น ทำให้พวกเขาแก้ไขปัญหา “ทรัคชั่นด้านหลัง” ได้ดีกว่าเดิมมาก
นั่นหมายความว่า RC213V ใหม่ปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และแก้ไขจุดอ่อนของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม…
ในช่วง พรี-ซีซั่น เป็นไปได้อย่างสวยงามสำหรับ HRC กับประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของรถแข่ง RC213V ซึ่งแตกต่างจากเดิมอย่างมาก และพวกเขาก็ทำเวลาเร็วที่สุดก่อนเข้าสู่การแข่งขันสนามแรกที่ กาตาร์
โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ใช้เวลาวันสุดท้ายในการหาความลงตัวกับการ “ทำเวลาต่อรอบสำหรับควอลิฟาย” ลงซ้อมในวันอาทิตย์เพียง 38 รอบสนามเท่านั้น ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 31.060 วินาที
แต่จากสถานการณ์ที่บ่งชี้ออกมา เวลาดีที่สุดของเขาทำได้ในรอบที่ 10 เพียงช่วงเริ่มต้นของวันเท่านั้น แต่หลังจากนั้น เขาใช้เวลาสำหรับการทดลองวิ่งแบบ “จำลองเรซ” ซึ่งลงวิ่งไปอีกเพียงไม่พี่รอบเท่านั้น และผลที่ได้ออกมาดีเกินคาด
โปล กล่าวหลังจากการทดสอบวันสุดท้ายว่า “ผมไม่เคยเร็วขนาดนี้มาก่อน ดังนั้น… นี่จึงเป็นอะไรที่สวยงามมาก ผมพร้อมแล้วสำหรับ กาตาร์”
อีกหนึ่งทิศทางที่เป็นบวกของ HRC คือ “ฟี๊ดแบ็ก” ที่ดีจากแชมป์โลก 8 สมัย มาร์ค มาร์เกซ ซึ่งแม้จะจบการทดสอบรวม 3 วันที่ มันดาลิกา ด้วยอันดับ 9 ตามหลังทีมเมท 0.4 วินาที แต่ “นักบิดต่างดาว” กลับให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสุดๆ
เมื่อวันศุกร์เป็นครั้งแรกที่ มาร์เกซ ยอมรับว่า “รู้สึกถึงความพิเศษบางอย่าง” กับรถแข่งใหม่ของ ฮอนด้า และกล่าวอีกครั้งในวันอาทิตย์ว่า “เวลาต่อรอบที่ดี” สามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยที่ไม่ทราบว่าทีมของเขาทำอะไรบ้างกับ RC213V
อย่างไรก็ดี มาร์เกซ ยอมรับว่าแม้จะรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้ลงบิดรถแข่ง แต่ก็ยังคงขาดอะไร “บางอย่างที่พิเศษ” สำหรับการเริ่มต้นฤดูกาลในวันที่ 4-6 มีนาคมนี้ ที่ กาตาร์
“คุณอาจจะไม่รู้นะ ผมบอกตามตรงว่าวันนี้ผมเร็วมากๆ” มาร์เกซ กล่าวเมื่อถูกถามว่าพร้อมหรือยังกับการแข่งขันที่ กาตาร์?
“ผมอยู่ในขีดความเร็วที่ดี บิดได้ยอดเยี่ยม เมื่อลองเปลี่ยนเซ็ตอัพที่แตกต่าง เวลาต่อรอบก็มาเรื่อยๆ (เร็วขึ้นต่อเนื่อง)”
“ผมพยายามทดลองวิ่งกับ แอโรไดนามิค หลายๆ แบบ และเวลาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการลองยางหลายสเป็คทั้ง มีเดียม, ซอฟท์ และเวลาต่อรอบก็ดีขึ้นต่อเนื่อง”
“ดังนั้น ถ้าคุณรู้สึกเช่นนั้นแสดงว่ารถแข่งของเรามีศักยภาพที่ดี”
“สนามนี้มันเป็นแทร็กที่ค่อนข้างพิเศษ มันค่อนข้างลื่น และโดยทั่วไปผมเองก็รู้สึกดีมาก”
“แต่ช่วงท้ายวัน “กริ๊ป” (การยึดเกาะ) มีสูงมาก ดังนั้น ผมค่อนข้างแฮปปี้หลังจบการทดสอบที่ มันดาลิกา แน่นอนว่าเราทำงานได้สำเร็จ”
“ก็จริงอยู่ที่ผมต้องการอะไรมากกว่านี้ เพราะผมยังไม่สามารถสัมผัสได้ถึง “ฟีลลิ่ง พิเศษ” กับรถแข่ง แต่ผมแฮปปี้นะ”
นอกจากนี้ มาร์เกซ ยังกล่าวถึงสภาพร่างกายของตนเองว่า สิ่งเดียวที่จะทำให้ “ผ่าน” วันอาทิตย์ให้ได้ “คือลงไปบิดให้สนุก”
“วันสุดท้ายผมสนุกกับการลงเทสต์มาก” มาร์เกซ เสริม
“คือผมสนุกกับการเทสต์ตลอดทั้งวันมาก แต่มันก็เหมือนเป็นการเอาตัวรอดให้ได้ทั้งวัน เพราะผมล้าสุดๆ ตั้งแต่เริ่มต้นวันอาทิตย์”
“ผมคิดว่าทุกคนน่าจะเป็นเหมือนกัน แต่วันนี้ (วันอาทิตย์) ผมรู้สึกปวดหัวไหล่ขวา และด้วยเหตุนั้น ทำให้ผมเลือกที่จะไม่เข้าโหมด Time Attack เพราะในโหมดนั้นเราต้องใช้พลังเยอะมาก”
“ดังนั้น ผมเลือกที่จะลงซ้อมสำหรับ เรซเพซ และก็ทำงานกับการเซ็ตอัพรถแข่ง”
“ผมสนุกกับมันนะครับ ผมเริ่มรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถแข่ง และเริ่มต้นรู้สึกว่าสามารถสไลด์มันได้”
“เอาละ เราค่อยมาดูกัน… ผมต้องการยืนยันความรู้สึกนี้อีกครั้งที่ กาตาร์ แต่ยอมรับว่าการเทสต์ที่นี่ แตกต่างจากที่ มาเลเซีย มาก ในด้าน ฟีลลิ่ง ที่มีต่อรถแข่ง”
ด้าน อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า ใช้เวลาในการทดสอบวันสุดท้ายมากถึง 75 รอบสนาม ด้วยการโฟกัสกับการทดสอบแบบ “ลองรัน” และหาข้อมูเปรียบเทียบของ “แอโรดานามิก” 2-3 แบบ จบการเทสต์รวมในอันดับ 14 ตามจ่าฝูง 0.543 วินาที
ขณทะทีมเมทชาวญี่ปุ่น ทาคาอากิ นาคากามิ ลงทดสอบหลายอย่างมากที่ มันดาลิกา ซึ่งงานหนักของเขาอยู่ในวันเสาร์ คือการเทสต์ “แชสซีส์” 2 แบบ รวมถึงในวันอาทิตย์ด้วยที่ลงบิดไปถึง 91 รอบสนาม เขาจบอันดับ 1 โอเวอร์ออลล์ ตามจ่าฝูง 0.627 วินาที
ทิศทางที่ยอดเยี่ยมของ ฮอนด้า โดยเฉพะาความเร็วต่อรอบสูงสุดของ โปล เอสปาร์กาโร และการทดสอบวิ่งแบบ “ลองรัน” ที่ลงตัวของ มาร์ค มาร์เกซ ประกอบการแสดงความมั่นใจของ อัลเบอร์โต พุช ทีมบอส เรปโซล ฮอนด้า ด้วยแล้ว…
ดูเหมือน “ฮอนด้า” จะกลับมาเป็น “ทีมที่น่ากลัว” อีกครั้งสำหรับคู่แข่งใน โมโตจีพี 2022
