อเลช เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนอชจาก อพริเลีย เรซซิ่ง เผยเหตุที่ต้องเข้าไปเปลี่ยนรถแข่งใน “รอบวอร์มอัพ” ก่อนเกม โมโตจีพี เจแปนีส เริ่มต้น ส่งผลให้อดลุ้นชัยชนะ เจ้าตัวชี้ “รถแข่งล็อครอบแบบอีโค” และไม่สามารถแก้ไขเองได้
เจ้าของรถแข่งหมายเลข 41 สร้างความได้เปรียบในการควอลิฟายเหนือคู่แข่งที่ลุ้นแชมป์โลกอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า แต่กลับเจอความขัดข้องของรถแข่งก่อนเริมการแข่งขัน
โดย เอสปาร์กาโร แสดงอาการหัวเสียสุดขีดหลังพบว่ามีปัญหา จนต้องนำรถเข้ามาเปลี่ยน “รถสำรอง” ออกไปแข่งขันด้วยการออกตัวจากพิตเลน ซึ่งไม่ใช่รถแข่งที่ใส่ยางที่เขาเลือกสำหรับการแข่งขัน
อเลช พยายามไล่บี้อย่างหนัก แต่ทำได้ดีที่สุดเพียงบิดเข้าป้ายในอันดับ 16 ไร้แต้มจากสนามนี้ โดยนักบิดสแปนิชเปิดเผยหลังจบเรซว่า “รถแข่งคันแรก” ของเขา “ค้าง” อยู่ในโหมด “ประหยัดน้ำมัน” (Fuel-save eco map) ซึ่งถูกออกแบบมาใช้สำหรับรอบนำเข้าไปที่กริดสตาร์ท (Sighting Lap)
“พวกเขาทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง นั่นคือการไม่ปลดล็อกออกจากโหมด ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทำให้ผมไม่สามารถบิดได้เกิน 4-5,000 รอบ/นาที ของเครื่องยนต์” อเลช เผย
“ผมพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่มันไม่ได้ผล” นักบิดสแปนิชกล่าวด้วยความผิดหวัง
“ผมเข้ามาเปลี่ยนรถสำรอง แต่ว่ามันถูกใส่ยางหลังซอฟท์เอาไว้ (ซึ่งเขาเลือกใช้ยางมีเดียม) และผมเองก็ไม่สามารถขี่ได้กับยางนั้น”
“ผมรู้ว่าตั้งแต่ชวงเริ่มต้นเรซ ว่ารถแข่งของเราจะสามารถขึ้นไปแถวหน้าได้ แต่ความเร่งรีบทำให้ผมเองก็ทำพลาดไปหมด ผมจึงตัดสินใจขี่ไปบนแทร็กเพื่อรอสัญญาณธงแดง หรืออะไรก็ตาม แต่มันก็ไม่มีอะไรมาช่วยผมเลย”
วีดีโอรายงานการแข่งขัน