หลังจากสร้างประวัติศาสตร์การ “คัมแบ็ก” ที่ไล่ตามจาก 91 คะแนน จนแซงขึ้นนำเหนือ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกชาวฝรั่งเศสจาก ยามาฮ่า ถึง 14 คะแนน ในการแข่งขันสนามนี้ที่ เซปังฯ จะเป็นโอกาสแรกที่ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า มีลุ้นคว้าแชมป์โลกในสุดสัปดาห์นี้
เซปังฯ คือโอกาสแรกในการลุ้นคว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสครั้งแรกของ บันยาญ่า ขณะที่ยังเหลือนักบิด 4 คนที่ยังคงมีโอกาสตามทฤษฎี นั่นคือตัวเขาเอง, กวาร์ตาราโร ที่ตามอยู่ 14 แต้ม, อเลช เอสปาร์กาโร ที่ตามอยู่ 27 แต้ม และ เอเนีย บาสเตียนินี ตามอยู่ 42 คะแนน
เงื่อนไขที่ บันยาญ่า จะครองแชมป์โลกในสนามนี้ทันทีคือ หากเขาชนะการแข่งขัน และ กวาร์ตาราโร ไม่สามารถขึ้นโพเดี้ยมได้ (ต่ำกว่าอันดับ 3) นอกจากนี้หากเขาคว้าอันดับ 2 ก็ยังคมมีโอกาสเป็นแชมป์โลก หาก กวาร์ตาราโร จบเรซต่ำกว่าอันดับ 6
และอีกเงื่อนไขคือ หาก บันยาญ่า จบเรซในอันดับ 3 เขาจะคว้าแชมป์โลกทันทีหาก กวาร์ตาราโร ไม่สามารถจบได้ดีกว่าอันดับ 11 ซึ่งส่วนต่างของคะแนนที่ ดาวบิดอิตาเลียนต้องการในสนามนี้คือเก็บได้มากกว่า กวาร์ตาราโร 11 คะแนน
รวมไปถึงโอกาสที่เปรียบเทียบกับ อเลช เอสปาร์กาโร คือ หากเจ้าของรถแข่งหมายเลข 41 ไม่สามารถจบการแข่งขันด้วยการเป็นผู้ชนะ และ บันยาญ่า จบเรซในอันดับ 3 เขาก็จะเป็นแชมป์โลกทันที ซึ่งสอดต้องสอดคล้องกับการที่ กวาร์ตาราโร ต้องไม่จบเรซเหนือกว่าอันดับ 11
หาก บันยาญ่า จบเรซในอันดับ 4, กวาร์ตาราโร ต้องจบเรซไม่ดีกว่าอันดับ 14 และ อเลช เอสปาร์กาโร ไม่สามารถขึ้นโพเดี้ยมได้
หรือ หาก บันยาญ่า จบการแข่งขันในอันดับ 5 แล้ว กวาร์ตาราโร ไร้แต้มในสนามนี้ และ เอสปาร์กาโร ไม่สามารถขึ้นโพเดี้ยมได้
ส่วน บาสเตียนินี ที่ตามอยู่ 42 คะแนน จะต้องลุ้นเก็บคะแนนมากกว่า บันยาญ่า ถึง 24 คะแนนในสนามนี้