“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า คัมแบ็กสู่ฟอร์มที่ดีของตัวเองได้อีกครั้ง หลังกดเวลารั้งอันดับ 7 จากการซ้อมวันแรกของ โมโตจีพี สนาม 3 อเมริกาส์ กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี เจอสถานการณ์ที่สวนทางต้องลุ้นเหนื่อยในรอบ Q1 วันเสาร์นี้
การแข่งขัน โมโตจีพี 2023 สนาม 3 รายการ กรังด์ปรีซ์ ออฟ ดิ อเมริกาส์ ผ่านการซ้อม 2 ครั้งแรกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ที่ เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์
สนามแห่งนี้นับเป็นแทร็กที่มีความเฉพาะตัวอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้แรงม้าของเครื่องยนต์เพื่อรีดความเร็วสูงสุด และการเซ็ตอัพช่วงล่างเพื่อการเข้าโค้งบนเนินแบบขึ้นลง ตามสไตล์ “Rodeo” ซึ่งถือเป็นงานยากอย่างมากสำหรับทุกทีม
ผลการซ้อม 2 ครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า กวาร์ตาราโร สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มคงที่ของตัวเองได้แล้ว โดยเฉพาะการ “จำลองเรซเพซ” ซึ่งเป็นจุดเด่นของนักบิดเฟรนช์จากการแข่งขันทั้งที่ โปรตุเกส และ อาร์เจนติน่า เขาทำมันได้อีกครั้ง และมั่นใจว่าเก็บข้อมูลดีเพียงพอสำหรับการแข่งขันในรอบ “เมนเรซ” แล้ว
อย่างไรก็ดี กวาร์ตาราโร ยังคงต้องเผชิญกับงานยากในการใช้ “ยางซอฟท์” เพื่อเค้นความเร็วในรอบควอลิฟาย ซึ่งเวลาที่ดีที่สุดของเขาอยู่ในอันดับ 7 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 2.721 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.543 วินาที
ขณะที่ มอร์บิเดลลี กลับสู่สถานการณ์ที่ต้องทำงานอย่างหนักอีกครั้ง เพราะความแข็งแกร่งที่เคยทำได้ใน อาร์เจนติน่า กลับไม่สามารถทำได้ใน ออสติน โดยในวันแรกนักบิดอิตาเลียนรั้งอันดับ 16 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 3.443 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.265 วินาที ทำให้ต้องเหนื่อยกับรอบ Q1 เพื่อลุ้นไปสู่รอบ Q2 ให้ได้
มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีมกล่าวว่า “เรามีผลลัพธ์ที่หลากหลายอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่ดี ฟาบิโอ กลับมาอยู่ในฟอร์มของเขาแล้ว วันนี้เขาแสดงให้เห็นถึงความเร็ว และความแข็งแกร่งทั้งในการซ้อมครั้งที่ 1 และ 2 เป้าหมายของเราคือติด 1 ใน 10 ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อโอกาสที่ดีในการควอลิฟาย และเราทำมันสำเร็จ 50%”
“แฟรงกี้ (มอร์บิเดลลี) พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ตรงกันข้าม เขาไม่สามารถสัมผัสถึงฟีลลิ่งที่ดีในแบบเดียวกับ อาร์เจนติน่า ได้ เขามีงานต้องทำในรอบ Q1 สำหรับวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเราต้องทำงานหนักเพื่อปรับปรุงเวลา พยากรณ์อากาศในวันเสาร์ค่อนข้างดี ดังนั้นเราจะใช้การซ้อมอิสระเพื่อปรับแต่งรถ และเตรียมพร้อมสำหรับรอบควอลิฟาย”
กวาร์ตาราโร เปิดเผยว่า “โหมด ไทม์ แอ็ทแท็ค ยังคงยากสำหรับผม ผมต้องการเน้นในเส้นทางนี้สุดๆ ผมหวังว่าเราจะเจอหนทางแก้ไขความเร็วในรอบควอลิฟายในวันพรุ่งนี้ ผมขี่เกินลิมิตเมื่อเราใส่ยางซอฟท์ ดังนั้นจึงต้องพยายามใจเย็นกว่านี้ ซึ่งผมเองต้องการบิดในวิธีเดียวกัน แต่ก็ต้องทำให้แน่ใจว่าใช้ประโยชน์จากยางซอฟท์ได้จริงๆ ระหว่างการแข่งขันในรอบควอลิฟาย”
มอร์บิเดลลี กล่าวถึงสถานการณ์ในวันแรกของเขาว่า “เป็นวันที่ยากในระดับกลางๆ เราทำงานได้ดีขึ้นนับตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย และนั่นก็เป็นไปในทิศทางบวก การกดเวลาครั้งแรกของผมทำได้ดีปานกลาง แต่รอบที่ 2 ผมกลับทำพลาดครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้ง เพราะขี่เกินลิมิตมากไป นั่นคือสาเหตุที่เราอยู่ในอันดับดังกล่าว น่าสนใจมากว่าเราจะสามารถลดช่องว่างในวันพรุ่งนี้สำหรับการควอลิฟายได้หรือไม่”
ทั้งนี้ ในวันเสาร์จะมีการซ้อมอิสระ 30 นาที เพื่อให้หาเซ็ตติ้งสำหรับการควอลิฟายและการแข่งขันไม่ว่าจะเป็น สปรินต์ หรือ เมนเรซ ดังนั้น นักบิดยามาฮ่าทั้ง 2 คนมีงานต้องทำหลักๆ คือเวลาต่อรอบสำหรับการควอลิฟายใน “ยางซอฟท์” ซึ่งทั้งคู่ยังรีดสมรรถนะออกมากยังไม่เต็มที่
โดยทั้ง กวาร์ตาราโร และ มอร์บิเดลลี เชื่อมั่นอย่างมากว่าหากค้นเจอ “ฟีลลิ่ง” ที่ดีในรอบควอลิฟายได้ พวกเขาจะสามารถสร้างผลงานยอดเยี่ยมได้ทั้งใน สปรินต์ และ เมนเรซ อย่างแน่นอน
ศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ ดิ อเมริกาส์ จะจับเวลาควอลิฟายในช่วงหัวค่ำวันเสาร์ที่ 15 เมษายน และแข่งขัน สปรินต์ ในคืนเดียวกัน จากนั้นจะดวลความเร็วรอบไฟนอลในคืนวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนนี้ เวลา 02.00 น. (ข้ามไปวันที่ 17 เมษายน)