“แฮมิลตัน” พลิกทวงแชมป์ รัสเซียน จีพี “อัลบอน” สตาร์ทพิตแซงระห่ำซิวที่ 5

ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกชาวอังกฤษจาก เมอร์เซเดส พลิกกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในศึกฟอร์มูล่าวัน สนาม 16 รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ขณะ อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักขับไทยจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง-ฮอนด้า บู๊ระห่ำสตาร์ทจากพิตเลนก่อนทะยานคว้าอันดับ 5 ในเรซสุดมันส์ที่ โซชิ ออโตโดรม ประเทศรัสเซีย

ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2019สนาม 16 รายการ รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ ที่ โซชิ ออโตโดรม ประเทศรัสเซีย ชิงชัยทั้งสิ้น 53 รอบสนาม

โพลโพซิชั่นเรซนี้เป็นของ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโกจาก เฟอร์รารี่ ขนาบข้างด้วย ลูอิส แฮมิลตัน นักขับอังกฤษจาก เมอร์เซเดส และ เซบาสเตียน เวทเทล นักขับเยอรมันจาก เฟอร์รารี่ ในกีิดที่ 2 และ 3

ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนพของ เวทเทล ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว หลังออกตัว ตามด้วย เลอแคลร์ และ แฮมิลตัน

เพียงรอบแรก โรแมง โกรส์ฌอง นักขับฝรั่งเศสจาก เรโนลต์ โดนทีมเมทอย่าง แดเนียล ริคคิอาร์โด ชนจนหลุดโค้ง 3 และต้องออกจากการแข่งขันทันที ซึ่งจังหวะดังกล่าวทำให้ เซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์แทร็ก 

ขณะที่ อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ที่ออกตัวจากพิตเลน สามารถกู้คืนขึ้นมาอยู่ในอันดับ 18 ตั้งแต่รอบแรก ก่อนจะขยับขึ้นมารั้งอันดับ 16 จากการเข้าพิตของนักขับ 2 คน ส่วน คิมิ ไรค์โคเน่น นักขับฟินน์จาก อัลฟา โรมิโอ โดนโทษตั๊มป์สตาร์ท ต้องโดนลงโทษทำไดรฟ์ทรู (ขับผ่านพิตเลน)

จากกลยุทธ์การเปิดให้ เวทเทล ขึ้นนำเพื่อบล็อค แฮมิลตัน ให้ร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 ทำให้ เฟอร์รารี่ สั่งการให้อดีตแชมป์โลกชาวเยอรมันเปิดทางให้ทีมเมทรุ่นน้องอย่าง เลอแคลร์ แซงผ่านขึ้นไป ทว่ารุ่นพี่กลับยังไม่ยอมเปิดทางให้ในช่วงแรกของการแข่งขัน

ในรอบที่ 17 เวอร์สแท็พเพ่น ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 เหนือ คาร์ลอส แซงซ์ นักขับสแปนิชจาก แม็คลาเรน ขณะที่ผู้นำยังคงเป็นของ เวทเทล ตามด้วย เลอแคลร์ และ แฮมิลตัน ส่วน อัลบอน นักขับไทยแซง ดานีล ควียาท นักขับเจ้าถิ่นจากต้นสังกัดเก่า โทโร รอสโซ ขึ้นมารั้งอันดับ 12 ได้ในรอบเดียวกัน

รอบที่ 25 อัลบอน ขยับแซง ปิแอร์ แกสลี ขึ้นมารั้งอันดับ 8 ก่อนที่ เลอแคลร์ จะเข้าพิตในรอบที่ 26 จากนั้น เวทเทล ตามเข้าพิตในรอบที่ 27 และออกมาตามหลัง เลอแคลร์ โดยคู่หูเมอร์เซเดสอย่าง แฮมิลตัน และ วัลเตรี บ็อตตาส ยังคงขับต่อไปและยังคงเลือกไม่เข้าพิต

จุดเปลี่ยนของเรซเกิดขึ้นอีกครั้งในรอบที่ 28 เมื่อรถแข่งของ เวทเทล มีปัญหาในหน่วย MGU-K จนต้องออกจากการแข่งขันในรอบดังกล่าวอย่างน่าเสียดาย กรรมการสังเป็น เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ ทำให้ แฮมิลตัน และ บ็อตตาส ตัดสินใจเข้าพิตในขณะที่มีการควบคุมความเร็ว โดย แฮมิลตัน ออกมานำ เลอแคลร์ ได้สำเร็จ

จากนั้นในรอบที่ 30 เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งอีกหน จากการที่ จอร์จ รัสเซล จาก วิลเลียมส์ ชนเข้ากำแพง ทำให้นักขับหลายคนทะยายเข้าพิต รวมถึง เวอร์สแท็พเพ่น และ อัลบอน เพื่อเปลี่ยนมาใช้ยางซอฟท์สำหรับช่วงท้าย รวมถึง เลอแคลร์ ที่แม้จะเข้าพิตเปลี่ยนยางมีเดียมไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ตัดสินใจเข้ามาเปลี่ยนเป็นยางซอฟท์เพื่อออกมาบดกับคู่หูเมอร์เซเดสในช่วง 21 รอบสุดท้าย

อัลบอน ที่เปลี่ยนยางซอฟท์ลงมาหวดในช่วงท้าย ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 ก่อนจะแซง เซอร์จิโอ เปเรซ จาก เรซซิ่ง พอยต์ ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 7 ในอีก 3 รอบถัดมา ขณะที่ เลอแคลร์ ไล่บี้ บ็อตตาส อย่างหนักเพื่อชิงอันดับ 2

โดยรอบที่ 43 อัลบอน ขยับแซง เควิน แม็กนุสเซ่น ขึ้นมารั้งอันดับ 6 ได้สำเร็บ ก่อนที่ในรอบที่ 48 อัลบอน ขยับแซง แซงซ์ ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ได้สำเร็จ ขณะที่ แฮมิลตัน นำเป็นจ่าฝูงเหนือ บ็อตตาส ห่างออกไปถึง 5 วินาที ตามด้วย เอลแคลร์ ที่ยังไม่สามารถขึ้นมาได้

จบการแข่งขัน 53 รอบสนาม แชมป์ตกเป็นของ แฮิลตัน ตามด้วย บ็อตตาส และ เลอแคลร์ ส่วนอันดับ 4 เป็นของ เวอร์สแท็พเพ่น ด้าน อัลบอน ออกสตาร์ทจากพิตแซงระห่ำ 15 คัน จบเรซในอันดับ 5 อย่างสุดมันส์

ผลการแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์