“ท็อปกัน” มาเวริค บีญาเลส เผยปัจจัยที่ทำให้ฟอร์มดีช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง มาจากการ “ปรับปรุงการขี่ของตัวเอง”ให้ดีขึ้นกับรถแข่ง M1 2019 แบบดั้งเดิม เพื่อหาจุดที่ดีที่สุดในการบิด “ยามาฮ่า” โดยหลีกเลี่ยงรถแข่งและชิ้นส่วนเวอร์ชั่นอัพเกรด
นับตั้งแต่พักครึ่งฤดูกาล บีญาเลส กลับมาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเก็บโพเดี้ยมไปทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมถึงการคว้าแชมป์ที่ แอสเซ่น และ เซปัง แม้ว่าจะพลาดล้มที่ ออสเตรเลีย ก็ตาม
จากการแข่งขันในช่วงครั้งปีหลัง บีญาเลส ยังคงเริ่มต้นเรซได้ย่ำแย่ซึ่งเป็นปัญหาที่เขาเจอมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไม่สามารถไล่ติดกลุ่มหน้าได้
แม้ว่า ยามาฮ่า จะมีการอัพเดตที่สำคัญของชิ้นส่วนหลายอย่างที่ มิซาโน รวมถึงการเปิดตัว สวิงอาร์ม คาร์บอน ไฟเบอร์ และท่อไอเสียคู่ โดยมีเพียง วาเลนติโน รอสซี่ จอมเก๋าวัย 40 ปี เพียงคนเดียวที่มใช้ลงแข่งขัน โดย บีญาเลส หลีกเลี่ยงที่จะใช้ชิ้นส่วนที่มีการอัพเกรดโดยหวังสร้างผลงานให้ดีขึ้นกับ M1 2019 เวอร์ชั่นดั้งเดิม
บีญาเลส พยายามอย่างหนักในการทำเวลาให้ดีนับตั้งแต่การซ้อมครั้งแรก ทว่านักบิดรูปหล่อชาวสแปนิชเผยว่า เขาทำงานอย่างหนักกับรถแข่งคนเดียวกัน ซึ่งมันสามารถทำให้ตนเองสามารถทำผลงานได้ดีขึ้นกับ M1
“ความคืบหน้าที่เราทำได้ เกิดจากการที่เราโฟกัสกับรถแข่งแบบเดิม พยายามทำความเข้าใจในการขี่มันให้ดีที่สุด และไปสู่จุดสูงสุดของรถ ทำงานกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำ” บีญาเลส เผย
“เราพยายามทำงานหนักมากกว่าเดิมกับรถแข่งตัวที่ยังไม่อัพเกรด และนั่นคือสิ่งสำคัญ รักษาจุดเด่นในการเข้าโค้งให้ดีที่สุด และนั่นคือจุดแข็งที่สุดของ ยามาฮ่า”
“ผมพยายามอย่างหนักตลอดทั้งปี แต่ในตอนนั้นเราหยุดที่จะพยายามหลายสิ่ง ทว่าเมื่อคุณขี่รถแข่งโรงงานคุณจะต้องพยายามทำทุกๆ อย่าง โดยไม่หยุด”
“ตลอดทั้งฤดูกาล มันยังคงเป็นเรื่องที่สับสนไม่น้อยในการใช้รถแข่งแบบเดียว และหันมาปรับปรุงที่การขี่ของตัวเอง ดังนั้นครึ่งหนึ่งของฤดูกาล ผมรักษาการขี่รถแข่ง M1 แบบดั้งเดิม พยายามที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่า”
“แม้ว่าจะมีชิ้นส่วนใหม่บางอย่างที่ ยามาฮ่า อัพเกรด แต่ผมก็ยังคงใช้รถแข่งคันเดิม พยายามทำความเข้าใจระหว่างตัวเองกับรถแข่งให้ดีขึ้นกว่าเดิม”