มาร์ค มาร์เกซ นักบิดต่างดาวชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า เผยว่าตนเองแฮปปี้ที่ “น้องชาย” ก้าวขึ้นมาเป็นทีมเมทในพรีเมียร์คลาส พร้อมชี้แจงหมดเปลือกไม่ได้กดดัน HRC กับดีลดึง อเล็กซ์ มาร์เกซ มาร่วมงานในปีหน้า
การประกาศรีไทร์ของ ฮอร์เก ลอเรนโซ แชมปโลกโมโตจีพี 3 สมัย ที่ บาเลนเซีย ส่งผลให้สถานการณ์ในการหาตัวแทนใน เรปโซล ฮอนด้า ได้รับการจับตามองอย่างมาก
เดิมที คาล ครัทช์โลว และ โยฮันน์ ซาร์โก รวมถึง อเล็กซ์ มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตทูคนล่าสุด คือ 3 ตัวเลือกของ ฮอนด้า ทว่าในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เซ็นสัญญากับ อเล็กซ์ มาร์เกซ เพื่อขยับขึ้นมาเป็นทีมเมทของ มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายแท้ๆ ในฤดูกาล 2020
อย่างไรก็ดี มีกระแสว่าดีลดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของ มาร์ค มาร์เกซ ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากกับ ฮอนด้า ในการตัดสินใจครั้งนี้…
“ทีมเมทของผมเป็นแชมป์โลก โมโตทู และเขาก็เป็นน้องชายผมด้วย แน่นอนว่าผมรู้สึกแฮปปี้กับเขา แต่ก็ใช่มันคือสถานการณ์ที่พิเศษสุดๆ หลังจากที่ ฮอร์เก ประเทศรีไทร์ไป” มาร์ค มาร์เกซ เผย
“แน่นอนว่า ฮอนด้า ก็ต้องมองหานักบิดคนใหม่มาแทนที่เขา และมีนักบิดหลายคนที่พวกเขาพิจารณา ซึ่งแชมป์โลก โมโตทู ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ”
มาร์ค มาร์เกซ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจของ ฮอนด้า สำหรับการเลือกตัวนักบิด
“ผมไม่ได้กดดัน ฮอนด้า ว่าจะต้องเลือกเขา (อเล็กซ์ มาร์เกซ) และไม่ได้กดดัน อเล็กซ์ เพื่อให้ขยับขึ้นมาบิดในพรีเมียร์คลาส เพียงแต่เมื่อพวกเขาตกลงซึ่งกันและกัน มันก็เป็นโอกาสที่ดีของทั้งสองฝ่าย”
ขณะเดียวกัน มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายยังกล่าวถึงสถานการณ์ของน้องชายว่าจะต้องเจอกับ ความยากลำบากในการขยับขึ้นมา พรีเมียร์คลาส “เขาจะต้องเจอความกดดันอย่างมากแน่นอน มันไม่ง่ายเลยที่จะก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพิตของ HRC เพราะที่นี่มันคือยอดทีมของ โมโตจีพี เราทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะในทุกๆ สุดสัปดาห์ และแน่นอนน้องชายผมตอบตกลง”
“ผมมองว่านี่คือโอกาสที่ดีสุดๆ เมื่อคุณเป็นนักบิด โมโตทู และมีคนหยิบยื่นโอกาสในการก้าวสู่พรีเมียร์คลาส ก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ อเล็กซ์ เซย์เยส… และผมก็เคารพการตัดสินใจนั้น”
“ในเรื่องการปรับตัวกับรถ โมโตจีพี มันจะยากสำหรับเขาแน่นอน เพราะทุกอย่างมันแตกต่างออกไป”
“แต่นี่ถือเป็นฝันที่เป็นจริงของผม ที่มีครอบครัวของเราทั้งสองคนในโมโตจีพี ฮอนด้า ได้ถามผมว่าจะโอเคหรือเปล่าถ้าน้องชายผมมาเป็นทีมเมท ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ด้วยความสำเร็จใน โมโตทู เขาเหมาะสมแล้วกับโควต้านักบิดของ HRC”