แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสซี่สุดห้าวจาก พรามัค ดูคาติออกโรงเผยว่าใน “โมโตจีพี ยุคนี้” นักบิดจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี ในการปรับตัวหากเปลี่ยนรถแข่งไปบิดค่ายอื่น โดยเฉพาะจากทีมโรงงานหนึ่งไปยังอีกทีมโรงงาน
มิลเลอร์ ต้องปรับตัวครั้งใหญ่เมื่อย้ายจากทีมแซ็ตเทิลไลต์ของ ฮอนด้า มาร่วมงานกับ พรามัค ดูคาติ ในปี 2018 ก่อนจะมีท็อปฟอร์มกับรถแข่ง เดสโมเซดิซี ในปี 2019 ด้วยการเก็บโพเดี้ยม 3 จาก 6 เรซล่าสุด
นักบิดออสซี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่พิสูจน์ตัวเอง หลังเปลี่ยนแปลงค่ายด้วยความสำเร็จในการปรับตัวกับรถแข่งแบรนด์ใหม่ใน โมโตจีพี ขณะที่คู่แข่งคนอื่นๆ อย่าง ฮอร์เก ลอเรนโซ หรือ โยฮันน์ ซาร์โก ต่างล้มเหลวไม่เป็นท่า
มิลเลอร์ กล่าวถึงสถานการณ์ของ ลอเรนโซ ที่ล่าสุดประกาศรีไทร์จากโมโตจีพีไปแล้วว่า “ในตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ โมโตจีพี ที่นักบิดแต่ละคนนั้นยากที่จะเปลี่ยนรถแข่งเช่นนั้น แถมยังเป็นการขยับข้ามทีมโรงงานอีกต่างหาก” มิลเลอร์ กล่าว
“มันต่างจากเมื่อก่อน ผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี และเมื่อคุณพูดถึงนักบิดที่มีอายุ 30 ปี ฉะนั้น 2-3 ปี มันจึงเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน นอกเสียจากว่าคุณจะเป็น วาเลนติโน รอสซี่”
“มันยากมาก เพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือคุณจะต้องทำความเข้าใจกับยาง ว่ามันทำงานอย่างไรกับรถแข่งแต่ละคัน รถแข่งแต่ละคันทำงานอย่างไร จุดแข็งของมันอยู่ตรงไหน และคุณไม่สามารถทำมันได้เพียงเวลาสั้นๆ ในวินเทอร์เทสต์”
“คุณจะต้องลงแข่ง ต้องการประสบการณ์ร่วมกับมัน และมันเป็นเรื่องยากที่จะปรับตัวในเวลาสั้นๆ”